แผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิในภูมิภาคโทโฮะกุ พ.ศ. 2554
(ญี่ปุ่น: 東北地方太平洋沖地震 Tōhoku Chihō Taiheiyō-oki Jishin เป็นแผ่นดินไหวเมกะทรัสต์ขนาด 9.0 แมกนิจูด นอกชายฝั่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศญี่ปุ่นซึ่งเกิดขึ้นเมื่อเวลา 14.46 น. ตามเวลามาตรฐานญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2554 จุดเหนือศูนย์การเกิดแผ่นดินไหวได้รับรายงานว่าอยู่นอกชายฝั่งตะวันออกของคาบสมุทรโอชิกะ โทโฮะกุ โดยมีจุดเกิดแผ่นดินไหวอยู่ลึกลงไปใต้พื้นดิน 32 กิโลเมตรแผ่นดินไหวครั้งดังกล่าวก่อให้เกิดคลื่นสึนามิซึ่งมีความสูงถึง 10 เมตร พัดเข้าถล่มประเทศญี่ปุ่นไม่กี่นาทีหลังจากเกิดแผ่นดินไหว ในบางพื้นที่พบว่าคลื่นได้พัดเข้าไปในแผ่นดินลึกถึง 10 กิโลเมตร และมีคลื่นที่เล็กกว่าพัดไปยังอีกหลายประเทศหลายชั่วโมงหลังจากนั้น ได้มีการประกาศเตือนภัยสึนามิและคำสั่งอพยพตามชายฝั่งด้านแปซิฟิกของญี่ปุ่นและอีกอย่างน้อย 20 ประเทศ รวมทั้งชายฝั่งแปซิฟิกทั้งหมดของประเทศอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้สำนักงานตำรวจแห่งชาติของญี่ปุ่นระบุว่าขณะนี้มีผู้เสียชีวิตได้รับการยืนยันแล้ว 14,755 คน ผู้ได้รับบาดเจ็บ 5,279 คน และอีก 10,706 คนยังคงหายสาบสูญ ใน 18 จังหวัด เช่นเดียวกับอาคารที่ถูกทำลายหรือได้รับความเสียหายกว่า 125,000 หลัง แผ่นดินไหวครั้งนี้สร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งความเสียหายอย่างหนักต่อถนนและรางรถไฟ เช่นเดียวกับเหตุเพลิงไหม้ในหลายพื้นที่ และเขื่อนแตก บ้านเรือนราว 4.4 ล้านหลังคาเรือนทางตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ และอีก 1.5 ล้านคนไม่มีน้ำใช้ เครื่องกำเนิดไฟฟ้าหลายเครื่องไม่สามารถใช้การได้ และเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์อย่างน้อยสามเตาได้รับความเสียหาย เนื่องจากแก๊สไฮโดรเจนที่เกิดขึ้นในอาคารคลุมเตาปฏิกรณ์ชั้นนอก และยังได้มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะไดอิชิเกิดระเบิดขึ้นเกือบ 24 ชั่วโมงภายหลังเหตุแผ่นดินไหวครั้งแรก อย่างไรก็ตาม แรงระเบิดในพื้นที่ไม่รวมสารกัมมันตรังสีอยู่ด้วย[ประชาชนซึ่งอยู่อาศัยในรัศมี 20 กิโลเมตรรอบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะไดอิชิและรัศมี 10 กิโลเมตรรอบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะไดนิถูกสั่งอพยพจากแรงสั่นสะเทือนที่วัดได้ จึงนับได้ว่าเป็นเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น และเป็นเป็นเหตุการณ์แผ่นดินไหวรุนแรงเป็นอันดับสี่ของโลกเท่าที่มีการบันทึกสมัยใหม่มาตั้งแต่ พ.ศ. 2443นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น นะโอะโตะ คัง กล่าวว่า "ในช่วงเวลาหกสิบห้าปีนับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง วิกฤตการณ์ครั้งนี้นับว่าร้ายแรงและยากลำบากที่สุดสำหรับญี่ปุ่นเหตุแผ่นดินไหวดังกล่าวได้เคลื่อนเกาะฮอนชูไปทางตะวันออก 2.4 เมตร และเคลื่อนแกนหมุนของโลกไปเกือบ 10 เซนติเมตร ประมาณการความเสียหายเบื้องต้นอยู่ระหว่าง 14,500 ถึง 34,600 ล้านดอลล่าร์สหรัฐธนาคารกลางญี่ปุ่นอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบอย่างน้อย 15 ล้านล้านเยนเมื่อวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2554 เพื่อพยายามฟื้นฟูสภาพการตลาดให้กลับคืนสู่สภาพปกติเมื่อวันที่ 21 มีนาคม ธนาคารโลกประมาณการความเสียหายระหว่าง 122,000 ถึง 235,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศว่ามูลค่าความเสียหายจากภัยพิบัติแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิอาจมีมูลค่าสูงถึง 309,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ซึ่งทำให้มันเป็นภัยธรรมชาติที่สร้างความเสียหายมากที่สุดเท่าที่มีการบันทึกมาแผ่นดินไหว
แผนที่สถานที่เกิดแผ่นดินไหวและอาฟเตอร์ช็อกแผ่นดินไหวเกิดขึ้นในระยะ 130 กม. ทางตะวันออกของเซ็นได เกาะฮนชู ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นไปได้ว่าจะเกิดคลื่นสึนามิในหลายประเทศรวมทั้งประเทศญี่ปุ่น ศูนย์กลางที่เกิดอยู่ห่างจากกรุงโตเกียว 373 กม. เป็นระยะเวลานานอย่างน้อยหกนาที ตามข้อมูลของสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐอเมริกา (USGS) เกิดอาฟเตอร์ช็อกขนาด 7.0 แมกนิจูดได้รับรายงานเมื่อเวลา 15.06 น. ตามเวลาท้องถิ่น และ 7.2 แมกนิจูดเมื่อเวลา 15.26 น. ตามเวลาท้องถิ่น[เกิดอาฟเตอร์ช็อกความรุนแรง 4.5 แมกนิจูดขึ้นไป มากกว่าห้าร้อยครั้งหลังจากแผ่นดินไหวครั้งแรกก่อนหน้าแผ่นดินไหวหลักได้เกิดฟอร์ช็อก (แผ่นดินไหวนำ) รุนแรงหลายครั้ง เริ่มจากเหตุการณ์ 7.2 แมกนิจูดซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 มีนาคม ห่างออกไปจากแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 มีนาคมไปอย่างน้อย 40 กิโลเมตร ตามด้วยฟอร์ช็อกอีกสามครั้งที่เกิดขึ้นในวันเดียวกัน โดยมีความรุนแรงมากกว่า 6 แมกนิจูดหนึ่งนาทีก่อนหน้าผลกระทบจากแผ่นดินไหวจะไปถึงกรุงโตเกียว ระบบแจ้งเตือนภัยแผ่นดินไหวล่วงหน้าซึ่งเชื่อมโยงเข้ากับเครื่องตรวจวัดแผ่นดินไหวมากกว่าหนึ่งพันตัวในญี่ปุ่นได้ส่งคำเตือนออกอากาศทางโทรทัศน์เกี่ยวกับเหตุแผ่นดินไหวที่กำลังใกล้เข้ามาให้แก่ชาวญี่ปุ่นหลายล้านคน คลื่นเอสแผ่นดินไหว ซึ่งเคลื่อนที่ด้วยอัตราเร็ว 4 กิโลเมตรต่อวินาที ใช้เวลา 90 วินาทีในการเดินทาง 373 กิโลเมตรไปยังโตเกียว สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นเชื่อว่าระบบการแจ้งเตือนภัยล่วงหน้าสามารถช่วยชีวิตได้เป็นจำนวนมากในตอนแรก USGS ได้รายงานความรุนแรงของแผ่นดินไหวอยู่ที่ 7.9 แมกนิจูด แต่ต่อมาได้ปรับเพิ่มแมกนิจูดเป็น 8.8 และ 8.9 อย่างรวดเร็วและปรับเพิ่มอีกครั้งเป็น 9.0 แมกนิจูดแผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นโดยแผ่นแปซิฟิกกดตัวลงใต้แผ่นเปลือกโลกใต้ฮนชูเหนือ ซึ่งแผ่นเปลือกโลกแผ่นใดที่เกิดปรากฏการณ์ดังกล่าวขึ้นนี้ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ในหมู่นักวิทยาศาสตร์แผ่นแปซิฟิก ซึ่งเคลื่อนที่ด้วยอัตรา 8 ถึง 9 เซนติเมตรต่อปี ลาดลงไปใต้แผ่นเปลือกโลกซึ่งรองรับฮนชู และปลดปล่อยพลังงานออกมามหาศาล การเคลื่อนไหวนี้ดึงแผ่นเปลือกโลกที่อยู่ข้างบนลงจนกระทั่งเกิดความเครียดมากพอที่จะเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวขึ้น รอยแตกซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่งเซ็นได 130 กิโลเมตร มีการประมาณว่าจะมีความยาวหลายสิบกิโลเมตรและลึกเพียง 32 กิโลเมตร และทำให้ก้นมหาสุมทรดีดตัวขึ้นมาหลายเมตร และก่อให้เกิดแผ่นดินไหวแผ่นดินไหวครั้งดังกล่าวถูกจัดให้อยู่ในระดับ 7 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของมาตราวัดความรุนแรงของแผ่นดินไหวของสำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นในคุริฮาระ จังหวัดมิยะงิ ส่วนในอีกสามจังหวัด ได้แก่ จังหวัดฟุกุชิมะ จังหวัดอิบะระกิ และจังหวัดโทะชิงิ ถูกบันทึกไว้ว่าอยู่ในระดับ 6 บนตามมาตราดังกล่าว ส่วนสถานีแผ่นดินไหวในจังหวัดอิวะเตะ จังหวัดกุมมะ จังหวัดไซตะมะ และจังหวัดชิบะ วัดความรุนแรงได้ในระดับ 6 ล่าง และ 5 บนในโตเกียว
สถาบันพลังงานนิวเคลียร์ของสหรัฐอเมริกาเปิดเผยตัวเลขซึ่งระบุว่าแผ่นดินไหวดังกล่าวสร้างความเร่งสูงสุดของพื้นดินอยู่ที่ 0.35 จี (3.43 ม./วินาที²) ใกล้กับจุดเหนือศูนย์กลางแผ่นดินไหวจากการศึกษาโดยมหาวิทยาลัยโตเกียวชี้ว่าในบางพื้นที่มีค่าความเร่งสูงสุดเกินกว่า 0.5 จี (4.9 ม./วินาที²)สถาบันวิจัยแห่งชาติทางด้านศาสตร์ที่เกี่ยวกับโลกและการป้องกันภัยพิบัติ (NIED) ของญี่ปุ่นได้บันทึกค่าความเร่งสูงสุดของพื้นดินไว้ที่ 2.99 จี (29.33 ม./วินาที²)
พลังงาน
แผ่นดินไหวดังกล่าวปลดปล่อยพลังงานพื้นผิวออกมากว่า 1.9±0.5×1017 จูล ซึ่งประกอบด้วยพลังงานสั่นสะเทือนและสึนามิ ซึ่งคิดเป็นเกือบสองเท่าของพลังงานที่ปลดปล่อยออกมาจากเหตุแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิในมหาสมุทรอินเดีย พ.ศ. 2547 ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 230,000 คน สำหรับพลังงานที่ปลดปล่อยออกมาทั้งหมด หรือที่รู้จักกันว่า โมเมนต์แผ่นดินไหว มีค่ามากกว่า 200,000 เท่าของพลังงานพื้นผิว และสามารถคำนวณได้อยู่ที่ 3.9×1022 จู น้อยกว่าแผ่นดินไหวในมหาสมุทรอินเดียเมื่อ พ.ศ. 2547 เล็กน้อย พลังงานดังกล่าวเทียบเท่ากับทีเอ็นที 9.32 เตตระตัน หรืออย่างน้อย 600 ล้านเท่าของพลังงานของระเบิดนิวเคลียร์ที่ถล่มฮิโรชิมา
ผลกระทบทางธรณีฟิสิกส์
แผ่นดินไหวดังกล่าวได้ขยับส่วนทางตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นไปราว 2.4 เมตรเข้าใกล้ทวีปอเมริกาเหนือ ทำให้ทวีปของญี่ปุ่น "กว้างขึ้นกว่าแต่ก่อน" ตามข้อมูลของนักธรณีฟิสิกส์ รอส สไตน์ส่วนของญี่ปุ่นที่อยู่ใกล้จุดเหนือศูนย์กลางแผ่นดินไหวมากที่สุดถูกขยับไปมากที่สุดสไตน์ระบุว่าแนวชายฝั่งยาว 400 กิโลเมตรลดความยาวลงในแนวตั้ง 0.6 เมตร ทำให้คลื่นสึนามิเคลื่อนที่พัดเข้าสู่พื้นดินได้ไกลขึ้นและเร็วขึ้น ด้านแผ่นแปซิฟิกเองได้ขยับไปทางทิศตะวันออกมากที่สุดถึง 20 เมตร ถึงแม้ว่าการเคลื่อนของทวีปที่แท้จริงนั้นจะลดลงด้วยระยะห่างที่มากขึ้นจากจุดเกิดรอยเลื่อนประมาณการอื่น ๆ ชี้ว่าการเลื่อนไหลอาจเป็นระยะทางมากถึง 40 เมตร มีความยาวระหว่าง 300 ถึง 400 กิโลเมตร และกว้าง 100 กิโลเมตร หากข้อมูลดังกล่าวได้รับการพิสูจน์ยืนยัน แผ่นดินไหวครั้งนี้อาจเป็นหนึ่งในการเคลื่อนที่ของรอยเลื่อนที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นจากแผ่นดินไหวตามข้อมูลของสถาบันธรณีฟิสิกส์และวิทยาภูเขาไฟแห่งชาติของอิตาลี แผ่นดินไหวดังกล่าวได้ย้ายตำแหน่งแกนโลกไป 25 เซนติเมตร การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของโลกเล็กน้อยหลายอย่าง รวมไปถึงความยาวของวันและความเอียงของโลกอัตราเร็วในการหมุนรอบตัวเองของโลกเพิ่มมากขึ้น ทำให้วันหนึ่งสั้นลง 1.8 ไมโครวินาทีเนื่องจากการกระจายมวลของโลกใหม่ การเคลื่อนย้ายแกนเกิดขึ้นจากการกระจายมวลบนพื้นผิวของโลกใหม่ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงโมเมนต์ความเฉื่อยของโลก เนื่องจากผลกระทบในการอนุรักษ์โมเมนตัมเชิงมุม การเปลี่ยนแปลงความเฉื่อยดังกล่าวทำให้อัตราการหมุนของโลกเปลี่ยนแปลงเล็กน้อ ซึ่งเป็นสิ่งที่คาดการณ์ไว]สำหรับแผ่นดินไหวที่มีความรุนแรงระดับนี้เขาไฟชินโมอิเดเกะ ภูเขาไฟบนเกาะคิวชู ปะทุขึ้นสองวันหลังจากแผ่นดินไหวดังกล่าว จากที่เคยปะทุขึ้นมาแล้วเมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2554 ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่าการปะทุดังกล่าวมีความเชื่อมโยงกับแผ่นดินไหวหรือไม่ ในแอนตาร์กติกา คลื่นแผ่นดินไหวจากแผ่นดินไหวดังกล่าวได้รับรายงานว่าทำให้ธารน้ำแข็งวิลแลนส์ไถลไป 0.5 เมตรอาฟเตอร์ช็อกได้เกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมา ขนาด 7.4 แมกนิจูด (สำนักงานธรณีวิทยาสหรัฐอเมริกา วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 7.1 แมกนิจูด) เมื่อวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2554ฟอร์ช็อกและอาฟเตอร์ช็อกดูบทความหลักที่ รายชื่อฟอร์ช็อกและอาฟเตอร์ช็อกจากแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิในโทโฮะกุ พ.ศ. 2554คลื่นสึนามิแผ่นดินไหวดังกล่าวทำให้เกิดคลื่นสึนามิขนาดใหญ่ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงตามแนวชายฝั่งแปซิฟิกของหมู่เกาะตอนเหนือของญี่ปุ่น คลื่นสีนามิแพร่ขยายไปตลอดมหาสมุทรแปซิฟิก และมีการออกคำเตือนและคำสั่งอพยพในหลายประเทศที่มีพรมแดนติดกับมหาสมุทรแปซิฟิก รวมไปถึงชายฝั่งแปซิฟิกทั้งหมดของอเมริกาเหนือและใต้ ตั้งแต่อะแลสกาไปจนถึงชิลีอย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าสึนามิจะเดินทางไปถึงหลายประเทศ แต่ก็สร้างผลกระทบค่อนข้างเล็กน้อยเท่านั้น ชายฝั่งชิลีส่วนที่ติดกับมหาสมุทรแปซิฟิกซึ่งอยู่ห่างจากญี่ปุ่นมากที่สุด (ราว 17,000 กิโลเมตรส่วนระยะทางบนโลกที่ไกลที่สุดที่เป็นไปได้อยู่ที่ครึ่งเส้นรอบวง ราว 20,000 กิโลเมตร) ก็ยังได้รับผลกระทบเป็นคลื่นสึนามิสูง 2 เมตรญี่ปุ่น
ภาพขึ้นที่ขึ้นสูงถึง2 เมตร
คลื่นสึนามิที่พัดเข้าท่วมรันเวย์ของท่าอากาศยานเซนไดประกาศเตือนภัยสึนามิออกโดยสำนักงานอุตุนิยมวิทยาจัดสึนามิดังกล่าวในระดับสูงสุด โดยจัดเป็น "สึนามิขนาดใหญ่" ซึ่งมีความสูงอย่างน้อย 3 เมตร ความสูงที่แท้จริงจากการคาดการณ์นั้นแตกต่ากันไป โดยมีการคาดการณ์สูงที่สุดในจังหวัดมิยะงิที่ 10 เมตร แผ่นดินไหวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 14.46 น. ตามเวลามาตรฐานญี่ปุ่น ราว 70 กิโลเมตรจากแนวชายฝั่งที่ใกล้ที่สุดของญี่ปุ่น และแต่เดิมมีการคาดการณ์ว่าคลื่นสึนามิจะใช้เวลาเดินทางมายังพื้นที่แรกที่ได้รับผลกระทบระหว่าง 10 ถึง 30 นาที ตามมาด้วยพื้นที่ทางเหนือและใต้กว่าตามภูมิศาสตร์ของแนวชายฝั่ง ราวหนึ่งชั่วโมงหลังจากเกิดแผ่นดินไหวขึ้น เมื่อเวลา 15.55 น. ตามเวลามาตรฐานญี่ปุ่น คลื่นสึนามิได้รับรายงานว่าพัดเข้าท่วมท่าอากาศยานเซนได ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับชายฝั่งของจังหวัดมิยะงิโดยคลื่นได้พัดพาเอารถยนต์และเครื่องบิน ตลอดจนท่วมอาคารเป็นจำนวนมากขณะที่คลื่นพัดพาเข้าไปในแผ่นดิน นอกจากนี้ ยังมีรายงานคลื่นสึนามิความสูง 4 เมตรเข้าถล่มจังหวัดอิวะเตะเช่นเดียวกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิในมหาสมุทรอินเดีย พ.ศ. 2547 และเหตุการณ์พายุไซโคลนนาร์กิส ความเสียหายจากคลื่นที่พัดเข้าถล่ม ถึงแม้ว่าจะกินพื้นที่จำกัดกว่ามาก แต่ทำให้มีผู้เสียชีวิตและสร้างความเสียหายมากกว่าตัวแผ่นดินไหวเอง มีรายงานว่า "เมืองทั้งเมืองหายไป" จากพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากคลื่นสึนามิในญี่ปุ่น รวมทั้งเมืองมินามิซานริคุ ซึ่งมีผู้สูญหายกว่า 9,500 คนร่างของผู้เสียชีวิตหนึ่งพันคนถูกเก็บกู้ในเมืองเมื่อวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2554เมืองคุจิและโอฟุนาโตะถูก "พัดพาไปกับกระแสน้ำ ... ไม่เหลือร่องรอยเลยว่ามีแมืองตั้งอยู่ตรงนั้นนอกจากนี้ คลื่นสึนามิยังได้ทำลายเมืองริคุเซนตาคาตะ ซึ่งมีรายงานว่าคลื่นสึนามิมีความสูงเท่ากับตึกสามชั้ เมืองอื่นที่ได้รับรายงานว่าถูกทำลายหรือได้รับความเสียหายอย่างหนักจากคลื่นสึนามิ ได้แก่ โอนากาวะ, นะโตะริ, โอตสึชิ และยะมะดะ (จังหวัดอิวะเตะ) นะมิเอะ โซมะ และมินะมิโซมะ (จังหวัดฟุกุชิมะ) และโอนะกะวะ นะโตะริ อิชิโนะมะกิ และเคเซนนุมะ (จังหวัดมิยะงิ) ผลกระทบที่ร้ายแรงที่สุดของคลื่นสึนามิเกิดขึ้นตามแนวชายฝั่งยาว 670 กิโลเมตรตั้งแต่เอริมะทางเหนือไปจนถึงโออาราอิทางใต้ ซึ่งการทำลายล้างส่วนใหญ่ในพื้นที่เกิดขึ้นในชั่วโมงหลังจากเกิดแผ่นดินไหวคลื่นสึนามิยังได้พัดพาเอาสะพานเพียงหนึ่งเดียวที่เชื่อมต่อกับมิยาโตจิมะ จังหวัดมิยะงิ ทำให้ประชากร 900 คนบนเกาะขาดการติดต่อทางบกกับแผ่นดินใหญ่ ประเทศอื่นรอบมหาสมุทรแปซิฟิก
แอนิเมชันการขึ้นฝั่งของคลื่นสึนามิ โดย NOAAไม่นานหลังจากเกิดแผ่นดินไหว ศูนย์เตือนภัยสึนามิแปซิฟิกได้ออกคำเตือนสึนามิไปยังประเทศต่าง ๆ รอบมหาสมุทรแปซิฟิก เมื่อเวลา 7.30 น. UTC ศูนย์เคือนภัยได้ออกประกาศเตือนภัยซึ่งครอบคลุมมหาสมุทรแปซิฟิกทั้งหมดศูนย์เตือนภัยสึนามิชายฝั่งตะวันตกและอะแลสกาของสหรัฐอเมริกาได้ออกประกาศเตือนภัยสึนามิสำหรับพื้นที่ชายฝั่งของรัฐแคลิฟอร์เนียและโอเรกอน ตั้งแต่พอยท์คอนเซปชัน รัฐแคลิฟอร์เนีย ไปจนถึงพรมแดนโอเรกอน-วอชิงตันในรัฐแคลิฟอร์เนียและโอเรกอน คลื่นสึนามิสูง 2.4 เมตรได้พัดเข้าถล่มบางพื้นที่ สร้างความเสียหายให้แก่อู่จอดเรือและท่าเรือ คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 10 ล้านดอลล่าร์สหรัฐรัฐฮาวายประมาณความเสียหายที่เกิดขึ้นกับสาธารณูปโภคสาธารณะเพียงอย่างเดียวอยู่ที่ 3 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ และความเสียหายต่อทรัพย์สินของเอกชนอีกหลายล้านดอลล่าร์สหรัฐในเปรู มีรายงานว่าคลื่นสูง 1.5 เมตรพัดเข้าถล่ม และบ้านเรือนมากกว่า 300 หลังคาเรือนได้รับความเสียหายคลื่นสึนามิในชิลีเองก็มีขนาดใหญ่พอที่จะสร้างความเสียหายแก่บ้านเรือนมากกว่า 200 หลังคาเรือนโดยมีรายงานว่าคลื่นสูง 3 เมตรในหมู่เกาะกาลาปาโกส 260 ครอบครัวได้รับความช่วยเหลือหลังจากคลื่นสูง 3 เมตรพัดเข้าถล่ม ยี่สิบชั่วโมงหลังจากเกิดแผ่นดินไหวขึ้น แต่หลังจากประกาศแจ้งเตือนภัยสึนามิถูกยกเลิกไปแล้วบางประเทศในแปซิฟิกใต้ รวมไปถึงตองกาและนิวซีแลนด์ รวมไปถึงดินแดนของสหรัฐ อเมริกันซามัวและเกาะกวม ประสบกับคลื่นที่ใหญ่กว่าปกติ แต่ไม่มีรายงานว่าได้รับความเสียหายมากนัก บ้านบางหลังตามชายฝั่งจายาปุระ ประเทศอินโดนีเซีย ถูกทำลาย ตามชายฝั่งแปซิฟิกของเม็กซิโกและอเมริกาใต้ มีรายงานคลื่นสึนามิพัดถล่ม แต่ในหลายกรณีได้สร้างความเสียหายเพียงเล็กน้อยไปจนถึงไม่เกิดผลกระทบเลย รัสเซียสั่งอพยพประชากร 11,000 คนจากพื้นที่ชายฝั่งของหมู่เกาะคิวริวในฟิลิปปินส์ คลื่นสูง 0.5 เมตรพัดเข้าถล่มชายฝั่งตะวันออกของประเทศ คลื่นสึนามิสูง 1 เมตรได้รับรายงานว่าพบเห็นในบางพื้นที่ของบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา ทำให้คลื่นน้ำรอบเกาะดูอันตราย เพื่อเป็นการป้องกันอันตรายไว้ก่อน เรือจึงถูกห้ามออกจากฝั่ง ทำให้ชาวเกาะบางคนติดอยู่ ผลกระทบ
ภาพถ่ายดาวเทียมแสดงความความเสียหายระหว่างเซนไดกับอ่าวเซนไดระดับและขอบเขตของความเสียหายซึ่งเกิดขึ้นจากแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามินั้นใหญ่หลวง โดยความเสียหายส่วนใหญ่นั้นเกิดขึ้นจากคลื่นสึนามิ คลิปวีดิโอของเมืองที่ได้รับผลกระทบเลวร้ายที่สุดแสดงให้เห็นภาพของเมืองที่เหลือเพียงเศษซาก และแทบจะไม่เหลือส่วนใดของเมืองเลยที่ยังมีสิ่งปลูกสร้างเหลืออยู่ ประมาณการมูลค่าความเสียหายอยู่ในระดับหลายพันล้านดอลล่าร์สหรัฐ ภาพถ่ายดาวเทียมเปรียบเทียบก่อนและหลังของพื้นที่ที่ถูกทำลายล้างนั้นแสดงให้เห็นถึงความเสียหายอย่างมโหฬารที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ ถึงแม้ว่าญี่ปุ่นจะลงทุนไปหลายพันล้านดอลล่าร์ไปกับกำแพงกั้นน้ำต่อต้านสึนามิ ซึ่งลากผ่านอย่างน้อย 40% ของแนวชายฝั่งทั้งหมด 34,751 กิโลเมตร และสูงกว่า 12 เมตรก็ตาม แต่คลื่นสึนามิก็ไหลข้ามกำแพงกั้นน้ำบางส่วน และทำให้กำแพงบางแห่งพังทลาย โรงไฟฟ้านิวเคลียร์
แผนที่แสดงศูนย์กลางแผ่นดินไหวและตำแหน่งของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์
โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะไดอิชิ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะไดนิ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์โอะนะงะวะ และโรงไฟฟ้านิวเคลียร์โทไก ซึ่งประกอบด้วยเตาปฏิกรณ์ 11 เตา ถูกปิดลงโดยอัตโนมัติหลังแผ่นดินไหว[หลังจากเตาปฏิกรณ์ดับเครื่องแล้ว ระบบหล่อเย็นซึ่งใช้พลังงานจากเครื่องกำเนิดไฟฟ้าดีเซลสำรองจะต้องทำงานต่ออีกเป็นเวลาหลายวันเพื่อกำจัดความร้อนจากการสลายตัวแต่ทว่าที่โรงไฟฟ้าฟุกุชิมะ 1 และ 2 คลื่นสึนามิซัดข้ามกำแพงและทำลายระบบกำเนิดไฟฟ้าดีเซลสำรอง จึงเกิดปัญหาในการลดความร้อน และทำให้เกิดระเบิด 2 ครั้งที่โรงไฟฟ้าฟุกุชิมะ 1 และทำให้กัมมันตภาพรังสีในบริเวณรอบข้างมีระดังสูงขึ้น ประชาชนกว่า 200,000 คนในบริเวณใกล้เคียงต้องอพยพหนีหลังจากที่ความพยายามในการลดอุณหภูมิไม่ประสบความสำเร็จมาเกือบสัปดาห์ จึงมีการใช้รถดับเพลิงและเฮลิคอปเตอร์ในการเทน้ำเพื่อลดอุณหภูมิ ท่าเรือ
ภาพความเสียหารด้านท่าเรือ
ความเสียหายของเรือและปั้นจั่นในท่าเรือเซ็นไดท่าเรือทั้งหมดของญี่ปุ่นปิดชั่วคราวหลังจากเกิดแผ่นดินไหว ก่อนที่บางแห่งในโตเกียวหรือใต้ลงไปกว่านั้นจะเปิดใช้อีกครั้งในเวลาไม่นาน ท่าเรือตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ ฮาชิโนเฮะ เซนได อิชิโนมากิ และโอนาฮามะถูกทำลาย ในขณะที่ท่าเรือชิบะ (ซึ่งรองรับอุตสาหกรรมไฮโดรคาร์บอน) และท่าเรือคาชิมะ ซึ่งเป็นท่าเรือขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับเก้าในญี่ปุ่น ได้รับความเสียหายเช่นกัน แต่น้อยกว่ามาก ท่าเรือที่ฮิตาชินากะ ฮิตาชิ โซมะ ชิโอกามะ เคเซนนุมะ โอฟุนาโตะ คามาชิ และมิยาโกะ ได้รับความเสียหายเช่นกัน และคาดการณ์ว่าจะไม่สามารถเปิดใช้ได้อีกหลายสัปดาห์ ท่าเรือโตเกียวได้รับความเสียหายเล็กน้อย ผลกระทบของแผ่นดินไหวรวมไปถึงควันที่มองเห็นได้ลอยขึ้นมาจากอาคารในท่าเรือ ซึ่งบางส่วนของท่าถูกน้ำท่วม รวมทั้งการเหลวตัวของดินในพื้นที่ที่จอดรถของโตเกียวดิสนีย์แลนด์ เขื่อนล้มเหลวเขื่อนชลประธานฟุจินุมะในสุคากาวะแตก ทำให้เกิดอุทกภัยและน้ำได้พัดพาบ้านเรือนหลายหลังไปกับกระแสน้ำมีผู้สูญหายแปดคน และร่างผู้เสียชีวิตสี่คนถูกค้นพบในเช้าวันรุ่งขึ้นตามรายงาน ประชาชนท้องถิ่นบางคนพยายามซ่อมแซมรอยแตกของเขื่อนก่อนที่เขื่อนจะแตก เมื่อวันที่ 12 มีนาคม เขื่อน 252 แห่งถูกตรวจสอบ และพบว่าเขื่อนกั้นหกแห่งมีรอยแตกตื้น ๆ บริเวณสันเขื่อน อ่างเก็บน้ำที่เขื่อนคอนกรีตถ่วงน้ำหนักแห่งหนึ่งมีการพังทลายตามลาดที่ไม่น่าวิตกกังวล เขื่อนที่ได้รับความเสียหายทั้งหมดสามารถดำเนินการต่อไปโดยไม่มีปัญหา สี่เขื่อนในพื้นที่แผ่นดินไหวยังไม่สามารถเข้าถึงได้ เมื่อการติดต่อทางถนนสามารถเข้าถึงได้ ผู้เชี่ยวชาญจะถูกส่งไปตรวจสอบเพิ่มเติมไฟฟ้า
ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับสายส่งกระแสไฟฟ้า
ตามข้อมูลของโทโฮะกุอิเล็กทริกพาวเวอร์ มีบ้านเรือนราว 4.4 ล้านหลังคาเรือนทางะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์และเครื่องปฏิกรณ์ไฟฟ้าทั่วไปหลายเครื่องไม่สามารถใช้การได้หลังจากเกิดแผ่นดินไหวการปลดโหลดเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 14 มีนาคม เนื่องจากการขาดแคลนพลังงานซึ่งเป็นผลมาจากแผ่นดินไหว บริษัทผลิตไฟฟ้าโตเกียว (TEPCO) ซึ่งโดยปกติแล้ว ผลิตกระแสไฟฟ้าอย่างน้อย 40 กิกะวัตต์ ประกาศว่าขณะนี้ทางบริษัทสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้เพียงราว 30 กิกะวัตต์ ที่เป็นเช่นนี้เพราะไฟฟ้าร้อยละ 40 ที่ใช้ในพื้นที่เขตมหานครโตเกียวปัจจุบันนี้ได้รับกระแสไฟฟ้าที่ผลิตในจังหวัดนิอิงะตะและฟุกุชิมะเครื่องปฏิกรณ์ที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะไดอิชิและฟุกุชิมะไดนิถูกปิดตัวลงอัตโนมัติ เมื่อเกิดเหตุแผ่นดินไหวขึ้นครั้งแรกและได้รับความเสียหายอย่างหนักจากเหตุแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิที่เกิดขึ้นตามมา มีการคาดการณ์ว่าจะมีการปลดโหลดนานสามชั่วโมงจนกระทั่งถึงสิ้นเดือนเมษายนและจะส่งผลกระทบถึงจังหวัดโตเกียว คะนะงะวะ ชิซุโอกะ ยามานาชิ ชิบา อิราบากิ ไซตามะ โตชิงิ และกุนมะ การเต็มใจลดการใช้กระแสไฟฟ้าโดยผู้บริโภคในเขตคันโตช่วยลดความถี่และระยะที่เกิดไฟฟ้าดับจากที่เคยทำนายไว้โทโฮะกุอิเล็กทริกพาวเวอร์ (TEP) ปัจจุบันไม่สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าเพิ่มเติมให้กับเขตคันโตได้ เนื่องจากเครื่องปฏิกรณ์ของบริษัทได้รับความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวด้วยเช่นกัน คันไซอิเล็กทริกพาวเวอร์คอมปานี (Kepco) ไม่สามารถแบ่งกระแสไฟฟ้าให้ได้ เนื่องจากระบบของบริษัททำงานอยู่ที่ 60 เฮิร์ตซ์ ขณะที่ของอีกสองบริษัทนั้นทำงานที่ 50 เฮิร์ตซ์ ซึ่งเป็นผลมาจากการพัฒนาทางอุตสาหกรรมและสาธารณูปโภคในยุคเริ่มแรกในยุคทศวรรษ 1880 ซึ่งทำให้ญี่ปุ่นไม่มีสายส่งไฟฟ้าแห่งชาติที่เป็นเอกภาพสถานีย่อยสองแห่ง หนึ่งในชิซุโอกะและนางาโนะ สามารถเปลี่ยนแปลงความถี่และสามารถส่งกระแสไฟฟ้าจากคันไซไปยังคันโตและโทโฮะกุ แต่ปริมาณสูงสุดที่จะกระทำได้อยู่ที่ 1 กิกะวัตต์ และจากความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเครื่องปฏิกรณ์หลายเครื่องนั้น อาจต้องใช้เวลาหลายปีจึงจะฟื้นฟูระดับการผลิตกระแสไฟฟ้าทางตะวันออกของญี่ปุ่นให้กลับคืนสู่ระดับก่อนที่จะเกิดเหตุแผ่นดินไหว
ภาพไฟไหม้ น้ำมัน ก๊าซ และถ่านหิน
เพลิงไหม้ที่โรงกลั่นน้ำมันของคอสโมออยล์คอมปานีในจังหวัดอิชิฮาระ
โรงกลั่นน้ำมันของคอสโมออยล์คอมปานี ซึ่งมีกำลังการผลิต 220,000 บาร์เรลต่อวันเกิดเหตุเพลิงไหม้ซึ่งเป็นผลมาจากแผ่นดินไหวที่อิชิฮาระ จังหวัดชิบะ ทางตะวันออกของโตเกียวขณะที่โรงกลั่นน้ำมันแห่งอื่น ๆ ชะลอการผลิตเนื่องจากการตรวจสอบความปลอดภัยและการสูญเสียพลังงานในเซนได โรงกลั่นน้ำมันกำลังการผลิต 145,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นของบริษัทโรงกลั่นที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น เจเอกซ์นิปปอนออยล์แอนด์เอเนอร์จี ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้จากแผ่นดินไหวด้วยเช่นกัน[ มีการอพยพคนงาน แต่ประกาศเตือนภัยคลื่นสึนามิได้ขัดขวางความพยายามที่จะดับไฟจนกระทั่งวันที่ 14 มีนาคม เมื่อเจ้าหน้าที่ทางการวางแผนที่จะดำเนินการผู้เชี่ยวชาญประมาณว่าการบริโภคน้ำมันหลายประเภทอาจเพิ่มสูงขึ้นเป็นถึง 300,000 บาร์เรลต่อวัน (รวมทั้งก๊าซธรรมชาติเหลว) เพื่อใช้ป้อนให้กับเครื่องปฏิกรณ์ชนิดเผาผลาญเชื้อเพลิงซากฟอสซิลเพื่อพยายามทดแทนการผลิตกระแสไฟฟ้าจากนิวเคลียร์ 11 กิกะวัตต์ของญี่ปุ่นเครื่องปฏิกรณ์ของเมืองเซนไดที่นำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลวได้รับความเสียหายอย่างหนัก และวัตถุดิบถูกชะลอไว้อย่างน้อยหนึ่งเดือน
ภาพการขนส่ง
เครือข่ายการขนส่งของญี่ปุ่นหยุดชะงักอย่างรุนแรง สายโทโฮะกุหลายส่วนที่อยู่ทางตอนเหนือของญี่ปุ่นได้รับความเสียหาย บริการรถรางหยุดชะงักในโตเกียว โดยมีประมาณว่าผู้โดยสารอย่างน้อย 20,000 คนติดค้างอยู่ที่สถานีหลัก ๆ ในเมือง ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากแผ่นดินไหว บริการรถไฟบางส่วนได้กลับมาให้บริการอีกครั้ง รถไฟส่วนใหญ่ในโตเกียวได้กลับมาเปิดให้บริการเต็มที่ภายในหนึ่งวันหลังจากเหตุแผ่นดินไหว (12 มีนาคม) นักท่องเที่ยวกว่าสองหมื่นคนใช้ชีวิตอยู่ภายในโตเกียวดิสนีย์แลนด์ในคืนวันที่ 11-12 มีนาคมคลื่นสึนามิท่วมท่าอากาศยานเซนไดเมื่อเวลา 15.55 น. ตามเวลามาตรฐานญี่ปุ่นราวหนึ่งชั่วโมงหลังจากแผ่นดินไหวครั้งแรก ทั้งท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะและฮาเนดะได้ชะลอการให้บริการหลังจากแผ่นดินไหว โดยเที่ยวบินส่วนใหญ่เปลี่ยนไปลงท่าอากาศยานแห่งอื่นเป็นเวลาราว 24 ชั่วโมงสายการบินสิบสายที่ปฏิบัติการที่นาริตะได้ย้ายที่ทำการยังฐานทัพอากาศโยโกตะที่อยู่ใกล้เคียงแทนบริการรถไฟทั่วญี่ปุ่นจำนวนมากถูกยกเลิก โดยบริษัทรถไฟญี่ปุ่นตะวันออกชะลอการให้บริการทั้งหมดทั้งวัน รถไฟสี่ขบวนบนสายชายฝั่งได้รับรายงานว่าขาดการติดต่อกับผู้ให้บริการ รถไฟขบวนหนึ่ง ซึ่งเป็นรถไฟสี่โบกี้บนสายเซ็นเซกิ ถูกพบว่าตกราง และผู้โดยสารได้รับการช่วยเหลือไม่นานหลังจาก 8.00 น. ของวันรุ่งขึ้นไม่มีรายงานรถไฟหัวกระสุนชินกันเซ็นตกรางทั้งในและนอกโตเกียว แต่บริการรถไฟดังกล่าวหยุดชะงักโทไดโดชินกันเซ็นได้กลับมาให้บริการอีกครั้ง แต่ไม่ทั้งหมด ภายในวันเดียวกัน และเปิดให้บริการตามตารางเวลาปกติภายในวันรุ่งขึ้น ขณะที่โจเอ็ตสุและนางาโนะชินกันเซ็นได้กลับมาให้บริการอีกครั้งในวันที่ 12 มีนาคม อย่างไรก็ตาม โทโฮกุชินกันเซ็นยังคงชะลอการให้บริการ และสภาพของรางในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักยังยากที่จะสืบหาความจริงการให้บริการของโทโฮะกุชินกันเซ็นบางส่วนกลับมาให้บริการอีกครั้งเมื่อวันที่ 15 มีนาคม โดยมีการให้บริการไปอย่างเดียวหนึ่งขบวนต่อชั่วโมงระหว่างโตเกียวและนาสุ-ชิโอบาระ
โทรคมนาคม
บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่และสายดินได้รับผลกระทบอย่างมากในพื้นที่แผ่นดินไหว[บริการอินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่ไม่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ที่สาธารณูปโภคพื้นฐานยังคงมีอยู่ ถึงแม้ว่าแผ่นดินไหวจะสร้างความเสียหายแก่ระบบเคเบิลใต้ทะเลหลายส่วนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ระบบเหล่านี้สามารถเลี่ยงส่วนที่ได้รับผลกระทบไปยังส่วนที่ซ้ำซ้อนกันแทนในญี่ปุ่น มีเพียงไม่กี่เว็บไซต์เท่านั้นที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ในตอนแรกผู้ให้บริการฮอตสปอตวายฟายหลายแห่งได้รับมือกับเหตุแผ่นดินไหวโดยให้บริการเข้าถึงเครือข่ายของพวกเขาฟรี[ ศูนย์อวกาศ
องค์การสำรวจอวกาศญี่ปุ่นได้สั่งอพยพพนักงานจากศูนย์อวกาศซึกุบะในซึกุบะ จังหวัดอิราบากิ ศูนย์อวกาศดังกล่าวถูกปิดลง โดยมีรายงานได้รับความเสียหายบางส่วน ศูนย์อวกาศซึกุบะเป็นที่ตั้งของห้องควบคุมชิ้นส่วนของสถานีอวกาศนานาชาติ
ผลกระทบทางเศรษฐกิจ
นักวิเคราะห์บางคนทำนายว่าค่าฟื้นฟูบูรณะทั้งหมดอาจสูงถึง 10 ล้านล้านเยน (122,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ) [พื้นที่โทโฮะกุเหนือ ซึ่งได้รับผลกระทบมากที่สุด มีส่วนสร้างผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศถึงราว 8% โดยโรงงานที่ผลิตสินค้า อย่างเช่น รถยนต์และเบียร์ ตลอดจนสาธารณูปโภคด้านพลังงาน[พื้นที่ดังกล่าวรวมไปถึงจังหวัดมิยะงิทางตอนเหนือ อันเป็นที่ตั้งของเมืองเซนได ห่างออกไปทางตะวันออกเฉียงเหนือของโตเกียวราว 300 กิโลเมตร จังหวัดมิยะงิมีเขตผลิตและอุตสาหกรรมและเครื่องปฏิกรณ์เคมีและไฟฟ้า มีการประมาณการว่าจังหวัดมิยะงิมีผลต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของญี่ปุ่น 1.7%แผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิมีผลกระทบอย่างรุนแรงเฉียบพลันแก่ธุรกิจ อย่างเช่น โตโยต้า นิสสันและฮอนด้า ซึ่งชะลอการผลิตอัตโนมัติทั้งหมดจนถึงวันที่ 14 มีนาคม บริษัทนิปปอนสตีล ก็ได้ยุติการผลิตด้วยเช่นกัน บริษัทโตโยไทร์แอนด์รับเบอร์ และซุมิโตโมรับเบอร์อินดัสตรีส์ ปิดสายการผลิตยางรถยนต์และยาง ขณะที่จีเอส ยูอาสะได้เปิดการผลิตแบตเตอร์รีรถยนต์ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นที่คาดว่าจะขัดขวางการสามารถจัดหาอุปทานสำหรับผู้ผลิตรถยนต์[บริษัทผลิตไฟฟ้าโตเกียว โตชิบา บริษัททางรถไฟญี่ปุ่นตะวันออก และชิน-เอทซุเคมิคัล ได้รับการเสนอว่าเป็นบริษัทที่ไม่มั่นคงที่สุดจากผลของแผ่นดินไหว โซนียังได้ชะลอการผลิตที่โรงงานอุตสาหกรรมทั้งหมดหกแห่งในพื้นที่ ขณะที่ฟูจิเฮวีอินดัสตรีส์ไม่สามารถดำเนินการผลิตต่อได้ในโรงงานอุตสาหกรรมเกือบทั้งหมดในจังหวัดกุนมะและจังหวัดโทะชิงิ โรงงานอื่น ๆ ชะลอการผลิต ซึ่งรวมไปถึง คิรินโฮลดิงส์ แกล็กโซสมิทไคล์น เนสเล่และโตโยต้า เนื่องจากการถูกตัดพลังงานการปิดตัวลงของโรงงาน การตัดไฟฟ้า และผลกระทบตามมาที่สันนิษฐานไว้ต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคอาจส่งผลร้ายต่อจีดีพีของประเทศเป็นเวลาหลายเดือน ถึงแม้ว่านักเศรษฐศาสตร์ ไมเคิล บอสกิน จะทำนายว่า "เศรษฐกิจโดยรวมของญี่ปุ่นจะได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อย
ชั้นวางขายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่แทบไม่เหลือสิ้นค้าอยู่เลยหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ญี่ปุ่นที่เครดิตสวิส ฮิโรมิชิ ชิรากาวา กล่าวในบันทึกถึงลูกค้าว่าประมาณการความเสียหายทางเศรษฐกิจอาจอยู่ที่ระหว่าง 171,000-183,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ แค่เฉพาะพื้นที่ที่ประสบภัยพิบัติแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิเท่านั้น เมื่อวันที่ 14 มีนาคม ธนาคากลางญี่ปุ่น ในความพยายามที่จะรักษาเสถียรภาพของตลาได้อัดฉีดเงินกว่า 15 ล้านล้านเยนเข้าสู่ตลาดการเงินเพื่อรับประกันเสถียรภาพทางการเงินท่ามกลางสภาวะที่หุ้นดิ่งลงอย่างรวดเร็วและความเสี่ยงด้านสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน หลังจากที่ธนาคารกลางได้จัดคณะทำงานเฉพาะกิจฉุกเฉินเพื่อรับประกันสภาพคล่องหลังจากเกิดภัยพิบัติขึ้น ผู้ว่าการมาซาอากิ ชิรากาวา และคณะกรรมการบริหารธนาคารได้ขยายโครงการโดยซื้อพันธบัตรรัฐบาลเพื่อแลกเปลี่ยน-ค้ากองทุนถึง 10 ล้านล้านเยน ประธานธนาคารกลางญี่ปุ่นกล่าวว่า การอัดฉีดเงินจะดำเนินต่อไปหากจำเป็น อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดวิกฤตนิวเคลียร์รั่วไหล การกระทำของธนาคารกลางถูกตลาดมองว่าไร้ประสิทธิภาพถึงแม้ว่าจะมีการอักฉีดเงินเข้าสู่ตลาดมากกว่า 8 ล้านล้านเยนก็ตามวันที่ 15 ตุลาคม ดัชนีโทปิกซ์ดิ่งลงอีกครั้ง นับเป็นการดิ่งลงสองวันติดต่อกัน ซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อนนับตั้งแต่ พ.ศ. 2530 เมื่อความเสี่ยงทางการเงินของญี่ปุ่นเพิ่มสูงขึ้นหลังจากนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น นาโอโตะ คัง ประกาศเตือนว่ามีการรั่วไหลเพิ่มเติมจากเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่ไม่รับความเสียหาย โภคภัณฑ์ได้มีจำนวนลดลงอย่างมาก มีรายงานว่าผู้อยู่อาศัยในโตเกียวแตกตื่นแห่กันไปเลือกซื้อสินค้าเพื่อกักตุนของใช้ประจำวันที่จำเป็นและน้ำมัน จากความเสี่ยงจากการรั่วไหลของกัมมันตรังสีนิวเคลียร์ที่เพิ่มมากขึ้น
เลขานุการคณะรัฐมนตรี ยูกิโอะ เอดาโนะ กล่าวว่า รัฐบาลญี่ปุ่นประชุมในวันที่ 13 มีนาคม เพื่อประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจต่อหายนะดังกล่าวเขายังกล่าวแก่โทรทัศน์เอ็นเอชเคว่า รัฐบาลจะใช้เงิน 200,000 ล้านเยนซึ่งยังคงเหลือจากปีงบประมาณปัจจุบันซึ่งจะสิ้นสุดเมื่อวันที่ 31 มีนาคม เพื่อความพยายามฟื้นฟูประเทศอย่างเร่งด่วน มาตรการเพิ่มเติมอาจสามารถก่อหนี้สาธารณะของญี่ปุ่นได้ (ซึ่งมีหนี้สาธารณะสูงที่สุดในโลกอยู่แล้ว) การใช้จ่ายเพิ่มเติมนี้ยังอาจกระทบต่อความต้องการพันธบัตรรัฐบาลอีกด้วยการผลิตซิลิกอนเวเฟอร์ชะงักในโรงงานของชินเอ็ตสึเคมิคอลและเอ็มอีเอ็มซีอิเล็กทรอนิกส์แมทีเรียล ซึ่งผลผลิตของทั้งสองบริษัทนี้คิดเป็น 25% ของการผลิตซิลิกอนเวเฟอร์ทั่วโลก การชะลอการผลิตดังกล่าวเป็นที่คาดว่าจะกระทบต่อการผลิตสารกึ่งตัวนำในประเทศอย่างรุนแรง ขึ้นอยู่กับการสามารถหาซิลิกอนเวเฟอร์ดังกล่าวนักวิเคราะห์เศรษฐกิจบางคนมองว่า ท้ายที่สุดแล้ว เหตุการณ์ดังกล่าวจะช่วยพัฒนาเศรษฐกิจของญี่ปุ่น โดยเป็นการเพิ่มอาชีพระหว่างความพยายามฟื้นฟูประเทศ โดยหลังจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ฮันชิน พ.ศ. 2538 ผลประกอบการทางอุตสาหกรรมลดลง 2.6% แต่ได้เพิ่มขึ้น 2.2% ในเดือนต่อมา และอีก 1% ในอีกสองเดือนถัดมา หลังจากนั้นเศรษฐกิจของญี่ปุ่นได้เติบโตอย่างรวดเร็วเป็นเวลาอีกสองปีต่อมา และเร็วกว่าอัตราเติบโตเดิมเสียอีก ขณะที่ความคิดเห็นบางส่วนระบุว่าภัยพิบัติดังกล่าวจะสร้างผลเสียต่อเศรษฐกิจ
ผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก
ตลาดหลักทรัพย์นิคเคอิของญี่ปุ่น ในส่วนของตลาดซื้อขายสินค้าล่วงหน้ามีการปรับตัวลดลง 5% หลังจากทำการซื้อขายในตลาด ธนาคารกลางญี่ปุ่นออกมาระบุว่าจะพยายามอย่างถึงที่สุดที่จะรักษาเสถียรภาพของตลาดการเงินเมื่อวันที่ 15 มีนาคม ข่าวของระดับกัมมันตรังสีที่เพิ่มมากขึ้นทำให้ตลาดนิคเคอิดิ่งลงมากกว่า 1,000 จุด หรือ 10.6% (รวมแล้วทั้งสัปดาห์ลดลงถึง 16%)
ตลาดหุ้นอื่นทั่วโลกก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ดัชนีแด็กซ์ของเยอรมนีดิ่งลง 1.2% ภายในไม่กี่นาทีดัชนีฮั่งเส็งของฮ่องกงดิ่งลง 1.8% ขณะที่ดัชนีคอมโพสิตเกาหลีใต้ตกลงไป 1.3%เมื่อตลาดปิดทำการซื้อขายในวันที่เกิดเหตุแผ่นดินไหวขึ้นนั้น ดัชนีเอ็มเอสซีไอเอเชียแปซิฟิกลดลงถึง 1.8%ตลาดหุ้นสำคัญของสหรัฐเพิ่มขึ้นระหว่าง 0.5% ถึง 0.7%ราคาน้ำมันเองก็ได้ปรับตัวลดลงจากผลของการปิดโรงกลั่นน้ำมันในญี่ปุ่น ถึงแม้ว่าเหตุการณ์ความรุนแรงในลิเบียจะยังคงดำเนินต่อไป และการเดินขบวนประท้วงซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นในซาอุดิอาระเบีย ราคาน้ำมันดิบสหรัฐลดลงเหลือ 99.01 ดอลล่าร์สหรัฐ จาก 100.08 ดอลล่าร์สหรัฐในช่วงเที่ยง และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ลดลง 2.62 ปอนด์ เหลือ 112.81 ปอนด์.เงินสกุลเยนญี่ปุ่นแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่หลังจากเกิดแผ่นดินไหว และแตะระดับสูงสุดหลังสงครามโลกครั้งที่สองที่ 76.25 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ หลังจากมีการคาดคัเนว่านักลงทุนญี่ปุ่นจะส่งทรัพย์สินกลับประเทศเพื่อใช้จ่ายในการบูรณะเนื่องจากญี่ปุ่นพึ่งพาภาคการส่งออกเป็นหลัก เงินเยนที่แข็งค่านั้นอาจทำลายเศรษฐกิจยิ่งลงไปอีก ความไร้เสถียรภาพของตลาดการเงินได้ทำให้กลุ่มจี 7 ประชุมกันเมื่อวันที่ 17 มีนาคม ซึ่งได้ข้อสรุปเป็นความตกลงในการแทรกแซงอัตราแลกเปลี่ยนเงินเยนกับดอลล่าร์ร่วมกัน ซึ่งนับเป็นพฤติการณ์ดังกล่าวครั้งแรกนับตั้งแต่ พ.ศ. 2543
การตอบสนองในญี่ปุ่น
กิจกรรมค้นหาและกู้ภัยตามซากปรักหักพังหลังเกิดเหตุคลื่นสึนามิพัดเข้าถล่ม
นายกรัฐมนตรี นาโอโตะ คัง ประกาศว่ารัฐบาลได้เรียกระดมกองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่นเข้าไปในพื้นที่ประสบภัยพิบัติแผ่นดินไหวแล้วหลายพื้นที่เขาขอร้องให้สาธารณชนญี่ปุ่นให้อยู่ในความสงบและคอยรับฟังข่าวสารจากสื่อต่าง ๆ เพื่อรับทราบข้อมูลที่มีการเปลี่ยนแปล เขายังได้รายงานว่าเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์หลายครั้งได้ปิดตัวลงอัตโนมัติเพื่อป้องกันความเสียหายและการรั่วไหลของกัมมันตรังสี นอกจากนี้ยังได้จัดตั้งศูนย์ฉุกเฉินในสำนักงานของเขาเพื่อประสานการตอบสนองของรัฐบาลปัจจุบันที่พักอพยพกำลังประสบปัญหาขาดแคลนน้ำดื่มพกพา อาหาร ผ้าห่ม และสิ่งอำนวยความสะดวกห้องน้ำ โดยรัฐบาลได้จัดการของจำเป็นเหล่านี้ส่งไปยังพื้นที่ที่ต้องการเร่งด่วนอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ จากหลายพื้นที่ของญี่ปุ่นและต่างประเอุณหภูมิที่ลดลงเนื่องจากสายไฟฟ้าและแก๊สถูกรบกวนนั้นได้สร้างปัญหาเพิ่มเติมที่ที่พักพิงชั่วคราวดังกล่าว เมื่อวันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2554 มีประชากรในญี่ปุ่น 336,521 คนที่ต้องย้ายออกจากบ้านและอาศัยอยู่ที่อื่น รวมทั้งในที่พักพิงชั่วคราว 2,367 แห่งทีมค้นหาและกู้ภัยในเมืองของญี่ปุ่นที่ถูกส่งตัวไปยังนิวซีแลนด์ ภายหลังแผ่นดินไหวที่ไครสต์เชิร์ช พ.ศ. ถูกเรียกตัวกลับประเทศสื่อหลายสำนักรายงานว่าชาวญี่ปุ่นรับมือกับภัยธรรมชาติดังกล่าวอย่างเป็นระเบียบและอดทน โดยไม่มีการปล้นสะดมหรือเกิดเหตุรุนแรงขึ้นแต่อย่างใด นอกจากนี้ชาวญี่ปุ่นยังเข้าแถวรอซื้อสินค้าแม้ว่าสินค้านั้นจะหมดไปแล้วก็ตาม ลักษณะเช่นนี้อาจเป็นลักษณะเฉพาะของชาวญี่ปุ่นซึ่งเรียกว่า กามัง ซึ่งมีความหมายอย่างกว้าง ๆ ว่า "ความอดทนและความอุตสาหะสิบวันหลังจากเกิดแผ่นดินไหว ได้เริ่มต้นมีรายงานการลักขโมยและลักทรัพย์ในพื้นที่ประสบภัยพิบัติแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิ เมื่อถึงวันที่ 20 มีนาคม ตำรวจจังหวัดมิยะงิได้รับรายงานว่ามีการก่อเหตุลักทรัพย์ขึ้น 250 ครั้ง และสินค้าถูกขโมยไปจากร้านค้ารวมมูลค่า 4.9 ล้านเยน และเงินสด 5.8 ล้านเยน พยานรายงานว่าโจรได้ขโมยเงินสดและสมุดเงินฝากธนาคารจากบ้านที่ถูกทำลาย ฉกชิงทรัพย์จากร้านค้า และถ่ายน้ำมันจากยานพาหนะที่ถูกทิ้งไหว้หรือได้รับความเสียหายการตอบสนองจากนานาชาติ
ภาพที่ ทหารเรือลำเลียงของช่วยเหลือโดยเฮลิคอปเตอร์
การร้องขอความช่วยเหลือทางประเทศญี่ปุ่นได้ขอทีมช่วยเหลือจากออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เกาหลีใต้ สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริ และได้ขอร้องผ่านทางองค์การสำรวจอวกาศญี่ปุ่นให้มีการเคลื่อนไหวด้านกฎบัตรระหว่างประเทศในพื้นที่และภัยพิบัติครั้งใหญ่ ให้ดาวเทียมได้แสดงความหลากหลายของพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ พร้อมใช้งานร่วมกันกับการกู้ภัยและองค์กรให้ความช่วยเหลือ ความเกี่ยวข้องกับโลกญี่ปุ่นได้รับสาส์นแสดงความเสียใจและเสนอความช่วยเหลือจากผู้นำนานาประเทศ ตามข้อมูลของกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 19 มีนาคม มี 128 ประเทศ และ 33 องค์การระหว่างประเทศได้เสนอความช่วยเหลือไปยังญี่ปุ่นเหตุการณ์โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะได้จุดประเด็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ให้ได้รับความสนใจในระดับนานาชาติ และนำไปสู่การเดินขบวนประท้วงต่อต้านนิวเคลียร์ซึ่งมีผู้เข้าร่วมมากกว่า 50,000 คนในสตุตการ์ตและการยกเลิกการแถลงข่าวที่เห็นด้วยกับนิวเคลียร์ในสหราชอาณาจักรขณะที่กำลังเฝ้าจับตาระดับกัมมันตรังสีตามแนวชายฝั่งหลังจากเกิดวิกฤตโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ จีน ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนหลักในปฏิบัติการช่วยเหลือในญี่ปุ่นถึงแม้ว่าจะประสบกับวิกฤตการณ์แผ่นดินไหวในประเทศของตนด้วยในขณะเดียวกัน ได้เริ่มต้นอพยพพลเมืองของตนจากพื้นที่ประสบภัยพิบัติเลวร้ายที่สุดในญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2554 ฝรั่งเศสเองก็ได้เริ่มต้นอพยพผู้ที่มีสัญชาติจากพื้นที่ประสบภัยพิบัติเลวร้ายที่สุดเช่นกัน โดยมีการส่งเครื่องบินของสายการบินไปช่วยเหลือการอพยพเมื่อวันที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2554และเพื่อเป็นการรับมือกับอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการรั่วไหลของกัมมันตรังสี รัฐบาลออสเตรียได้ย้ายสถานทูตในญี่ปุ่นของตนจากโตเกียวไปยังโอซากา ห่างออกไป 400 กิโลเมตร
ในหลายประเทศ ได้มีการจัดการรณรงค์ช่วยเหลือขึ้นทั้งโดยภาครัฐและเอกชนเพื่อส่งเงินสนับสนุนและส่งความช่วยเหลือมายังผู้ประสบภัยพิบัติและประชากรทั่วไปในญี่ปุ่น ไซท์ซื้อแบบเป็นกลุ่มได้จัดการรณรงค์ออนไลน์ซึ่งมีการระดมเงินหลายล้านดอลล่าร์สหรัฐเพื่อส่งไปให้กับองค์การช่วยเหลือที่กำลังทำงานอยู่ในประเทศญี่ปุ่น
วิดีโอประกอบเหตุการณ์สินามิในญี่ปุ่น
อ้างอิงแหล่งที่มา
1. ^ 1.0 1.1 "震災の揺れは6分間 キラーパルス少なく 東大地震研" (in Japanese). Asahi Shimbun. Japan. 2011-03-17. http://www.asahi.com/science/update/0317/TKY201103170129.html. Retrieved 2011-03-18.
2. ^ 2.0 2.1 2.2 "Magnitude 9.0 – Near The East Coast Of Honshu, Japan". United States Geological Survey (USGS). http://earthquake.usgs.gov/earthquakes/eqinthenews/2011/usc0001xgp/. Retrieved 2011-03-13.
3. ^ 3.0 3.1 3.2 Reilly, Michael (11 March 2011). "Japan's quake updated to magnitude 9.0". New Scientist (ฉบับที่). http://www.newscientist.com/blogs/shortsharpscience/2011/03/powerful-japan-quake-sparks-ts.html. Retrieved 11 March 2011.
4. ^ 4.0 4.1 4.2 4.3 "Damage Situation and Police Countermeasures associated with 2011Tohoku district – off the Pacific Ocean Earthquake", Japanese National Police Agency, 25 March 2011, 12:00 JST. สืบค้นวันที่ 25 March 2011
5. ^ 5.0 5.1 5.2 5.3 "平成23年 (2011年) 東北地方太平洋沖地震の被害状況と警察措置", Japanese National Police Agency, 25 March 2011, 12:00 JST. สืบค้นวันที่ 25 March 2011
6. ^ 気象庁 Japan Meteorological Agency. "平成23年3月11日14時46分頃の三陸沖の地震について(第2報) 気象庁 | 平成23年報道発表資料" (in Japanese). JMA. http://www.jma.go.jp/jma/press/1103/11c/201103111620.html. Retrieved 11 March 2011. )
7. ^ 7.0 7.1 "New USGS number puts Japan quake at 4th largest", 14 มีนาคม 2011. สืบค้นวันที่ 15 มีนาคม 2011
8. ^ "Séisme et tsunami dévastateurs: plus de 1000 morts et disparus au Japon", 11 March 2011. สืบค้นวันที่ 12 March 2011 (ในFrench)
9. ^ "Tsunami hits north-eastern Japan after massive quake", BBC News, 11 March 2011. สืบค้นวันที่ 11 March 2011
ขอบคุณมากๆๆๆจ้าสำหรับข้อมูล
ตอบลบขอบคูณครับ
ตอบลบดีๆๆๆๆ
ตอบลบขอมูลน่าสนใจมากนะครับมีบทความดีๆดีเอ่าลงใหม่นะครับจะรอติดตาม
ตอบลบความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบขอบคุณมากนะครับสำหรับข้อมูล
ตอบลบขอขอบคูณทุกคนนะครับ
ตอบลบ